เคล็ดลับน่ารู้ • 30 พ.ค. 2024
อยากออกรถยนต์มือสองสักคัน หลายคนมักให้ความสำคัญกับสภาพโดยรวมของตัวรถ และประวัติการใช้งาน
เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์คันที่เล็งเอาไว้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างที่คาดหวัง แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าการโอนรถ
ก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน วันนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับการโอนลอยรถยนต์ โอนอย่างไร
มีความเสี่ยงอะไรบ้าง หาคำตอบได้ในบทความนี้
ทำความรู้จักกับการโอนลอย

โอนลอยรถยนต์ คือ การซื้อขายโดยที่กรรมสิทธิ์ของรถยนต์คันดังกล่าวยังไม่ถูกโอนชื่อเจ้าของใหม่โดยสมบูรณ์
แต่จะต้องมีใบสัญญาการซื้อขายเพื่อยืนยันได้ว่ารถคันนี้ถูกขายออกไปแล้ว โดยในใบโอนลอย หรือแบบคำขอการโอน
จะมีเพียงชื่อผู้โอน เมื่อผู้ซื้อรับรถแล้วจะต้องไปดำเนินการตรวจสภาพ และโอนชื่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่งทางบก
เลือกวิธีโอนลอยดีอย่างไร
การโอนลอยรถยนต์นั้นมีข้อดีสำหรับผู้ซื้อ และผู้ขายใน 2 ประเด็นดังนี้
ซื้อขายง่าย และรวดเร็ว
การโอนด้วยวิธีดังกล่าว ช่วยให้การซื้อขายรถง่ายมาก ๆ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ จากพ่อค้าคนกลางอย่างเต็นท์รถยนต์
เพียงแค่ออกใบสัญญาซื้อขายก็ดำเนินการได้เลย
เจ้าของรถไม่เสียเวลาเดินเรื่อง
ในมุมเจ้าของคนขายรถยนต์ หรือเจ้าของเดิม คือไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปทำเรื่องที่สำนักงานขนส่งทางบกด้วยตัวเอง
เพียงแค่มีหนังสือมอบอำนาจให้เข้าของใหม่ไปโอนกรรมสิทธิ์เองก็ถือว่าจบกระบวนการซื้อขาย

เอกสารที่ใช้ในการโอนลอย
การโอนลอยรถยนต์จำเป็นต้องมีเอกสารในการเดินเรื่องดังนี้
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ หรือเล่มทะเบียนรถยนต์
- หนังสือสัญญาซื้อขาย
- แบบคำขอโอน และรับโอนจากกรมการขนส่งทางบก ที่มีลายเซ็นเจ้าของรถคนเดิม
- หนังสือมอบอำนาจสำหรับเดินเรื่องโอนลอย พร้อมลายเซ็นเจ้าของรถคนเดิม
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขาย พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง (กรณีที่ผู้ขายเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขาย (กรณีที่ผู้ขายเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว)
เลือกวิธีโอนลอยต้องระวังอะไรบ้าง
สิ่งที่ควรระวังในการโอนลอยจะเป็นส่วนของเอกสาร ซึ่งจะต้องมีความรอบคอบทั้งฝั่งผู้ซื้อ และผู้ขายโดยมีประเด็นดังนี้
- การเซ็นสำเนาถูกต้อง ควรเซ็นทุกใบที่เป็นสำเนาโดยจะต้องเขียนรายละเอียดให้ครบ เช่น ลายเซ็น และหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันที่ดำเนินการ
- เอกสารสัญญาซื้อขายต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทั้งวันที่ ลายเซ็นพยาน และต้องระบุให้ชัดเจนว่ายังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง
การโอนลอยต้องเสี่ยงกับอะไรบ้าง
แม้ว่าการโอนลอยรถยนต์จะมีความสะดวก แต่ในอีกแง่มุมถือว่ามีความเสี่ยงอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
เช่น ใบสั่งจราจรที่เจ้าของคนเก่าค้างไว้ มีประวัตินำไปใช้ก่ออาชญากรรม เคยขับชนแล้วหนี รวมไปถึงการนำไปขายต่อแบบผิดกฎหมาย
หากเกิดปัญหาเหล่านี้ตามมาเจ้าของรถคนใหม่จะต้องรับเคราะห์แทนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าให้ชัวร์ควรทำเอกสารซื้อขายให้ผู้ซื้อ
และผู้ขายเก็บไว้คนละชุด และควรแลกสำเนาบัตรประชาชนของกันและกันเอาไว้ เพื่อยืนยันว่าตัวผู้ซื้อไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีความใด ๆ
ก่อนหน้า และในมุมของผู้ขายจะได้ป้องกันตัวเองในกรณีที่ผู้ซื้อเอารถไปใช้แต่ไม่โอนกรรมสิทธิ์ให้เรียบร้อย

สรุปเกี่ยวกับการโอนลอยรถยนต์
การโอนลอยรถยนต์เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่ให้ความสะดวกแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ในแง่ของผู้ขายแค่เดินทำใบโอนลอยหรือเอกสารสัญญาซื้อขายพร้อมสำเนา
ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ส่วนผู้ซื้อก็มีหน้าที่ไปเดินการเปลี่ยนชื่อเจ้าของด้วยตัวเอง แต่การโอนลอยก็นับว่ามีความเสี่ยงอยู่มากมายผู้ซื้อควรมีความรอบคอบ
เรื่องเอกสารให้มาก ๆ เพื่อป้องกันกันตัวเอง
อ้างอิง https://www.toyotasure.com/contentdetail/contentdetailsui/487